สวัสดีจ้าสาว ๆ ทุกคน
คงจะรู้จักการคุมกำเนิดกันอยู่แล้วใช่ไหมคะ
และคงรู้ว่าการคุมกำเนิดนั้นมีหลายประเภท ทั้งการใช้ยาคุมกำเนิดชนิดแบบเม็ด
ทั้งคุมกำเนิดที่เป็นการฝังเข็ม หรือแม้กระทั่งการทำหมันทั้งในเพศชาย และเพศหญิง
แต่วันนี้สิ่งที่เราจะพูดถึงนั้น คือ การคุมกำเนิดแบบใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด สาว ๆ
รู้กันไหมคะว่า ยาเม็ดคุมกำเนิดนั้นสามารถแบ่งออกได้อีกเป็น 2ประเภทหลัก
นั่นคือ ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน และยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดรายเดือน
|
ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินชนิด 2 เม็ด |
|
ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินชนิด 1 เม็ด |
1. ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน
คือ
ยาเม็ดคุมกำเนิดที่ใช้หลังจากการมีเพศสัมพันธ์ ที่ไม่ได้มีการป้องกัน
หรืออาจป้องกันผิดวิธี หรือแม้กระทั่งมีการป้องกันแล้ว
แต่เกิดอุบัติเหตุความผิดพลาดในการป้องกัน อย่างเช่น ถุงยางอนามัยขาด
ลืมกินยาคุมแบบแผงชนิดรายเดือน หรือห่วงอนามัยเกิดหลุด
นั่นคือสาเหตุในการที่ต้องกินยาเม็ดคุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่พร้อม
ไม่พึงประสงค์ ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินใน 1
แผง จะมีทั้งหมด 2 เม็ด ซึ่งจะต้องกินเม็ดแรกอย่างเร็วที่สุด
และควรกินภายใน 72 ชั่วโมง หลังจากมีเพศสัมพันธ์
และเม็ดที่สองควรกินหลังจากเม็ดแรกภายใน 12 ชั่วโมง ถัดไปจากการกินเม็ดแรก
ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินนั้นหากกินอย่างถูกวิธี
และถูกเวลาจะสามารถมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ถึง 95
เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าหากมีการกินที่ล่าช้าเกิน 24
ชั่วโมง หลังจากการมีเพศสัมพันธ์
ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์จะลดเหลือเพียง 85
เปอร์เซ็นต์ และหากกินหลังจาก 48 ชั่วโมง
ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์จะลดเหลือเพียง 75
เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นจึงไม่ควรที่จะกินยาคุมล่าช้า ควรกินอย่างเร็วที่สุด
เพื่อประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ที่ดีที่สุด
|
ยาคุมกำเนิดรายเดือน ชนิด 21เม็ด และ 28 เม็ด |
2. ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดรายเดือน
นั้นจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ที่ดีกว่ายาเม็ดคุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน
เนื่องจาก หากกินอย่างถูกวิธีอย่างเคร่งครัดนั้น
จะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ถึง 95 เปอร์เซ็นต์ แล้วสาว ๆ
รู้ไหมว่ายาเม็ดคุมกำเนิดชนิดรายเดือนนั้นสามารถแบ่งได้ออกเป็น 3
ประเภท คือ ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนต่ำ
และยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว โดยทั้งสามแบบมีความแตกต่างกันดังนี้
ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม
ซึ่งเป็นยาเม็ดคุมกำเนิดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจากสาว ๆ
โดยในหนึ่งเม็ดจะประกอบไปด้วย 2 ฮอร์โมน ด้วยกันคือ ฮอร์โมนเอสโตรเจน
และฮอร์โมนโปรเจสโตเจน ซึ่งยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดนี้ จะมีประโยชน์มากมายแฝงอยู่ด้วย
ไม่ใช่มีประโยชน์แค่เฉพาะการป้องกันการตั้งครรภ์เพียงอย่างเดียว อย่างเช่น ลดสิว
ลดความมันบนใบหน้า ลดอาการบวมน้ำ ลดอาการ PMS รักษาอาการ
PCOS เป็นต้นจ้า ตัวอย่างยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม
อย่างเช่น Justima (จัสจิมา) และYasmin (ยาสมิน)
ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนต่ำ
เป็นยาเม็ดคุมกำเนิดที่มีปริมาณของฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง ซึ่งน้อยกว่าแบบฮอร์โมนรวม
เพราะยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดนี้ใช้เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่มีอาการแพ้ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม
ซึ่งจะมีอาการแพ้ยา มีอาการอาเจียน วิงเวียนศีรษะ หรือเป็นฝ้าที่ใบหน้า
ตัวอย่างยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนต่ำที่หาซื้อได้ง่าย เช่น Yaz (ยาซ)
ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว
ซึ่งเหมาะมากสำหรับผู้ที่เป็นคุณแม่ ให้นมลูก โดยตัวยาใน 1 เม็ดจะประกอบด้วยฮอร์โมนโปรเจสโตรเจนเพียงอย่างเดียว
ซึ่งส่งผลให้ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดของยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยวนั้น
มีน้อยกว่ายาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม
ตัวอย่างยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยวที่หาซื้อได้ง่าย เช่น Dailyton (เดลิต้อน)
และ Exluton (เอ็กซ์ลูตอน)
ถึงตอนนี้แล้วสาว ๆ
คงรู้กันแล้วใช่ไหมคะว่าประโยชน์ของยาเม็ดคุมกำเนิดมีอะไรบ้าง
และการป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่พึ่งประสงค์นั้นดีอย่างไร สาว ๆ
คนไหนที่ยังไม่พร้อมจะเป็นคุ
ณแม่ก็อย่าลืมป้องกันกันด้วยนะคะ
**หากใครต้องการทานยาคุมควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้เสมอ
เป็นผู้หญิงแล้วมีฮอร์โมนเพศชายได้จริงหรอ?
-มีได้ค่ะ ตอบตรงนี้ได้เลย แต่ก็ไม่ได้เกิดกับผู้หญิงทุกคนนะจ๊ะ สาวๆบางคนจะมีการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน ส่วนมากจะอยู่ในช่วงวัยรุ่นจนถึงวัยทองรวมไปถึง
ผู้ที่ตั้งครรภ์ด้วย เมื่อเราอายุมากขึ้นฮอร์โมนหลาย ๆ ตัวจะเริ่มเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งวัยรุ่นจะเป็นวัยที่เราเห็นการเปลี่ยนแปลงมากทั้งทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งเป็นผล
มาจากฮอร์โมนเพศที่เพิ่มมากขึ้น
ฮอร์โมนเพศชายที่มีอยู่ในเพศหญิงนั้นเป็นอย่างไร?
ที่จะเห็นได้ชัดๆ คือ การที่มีขนขึ้นตามตัวมากกว่าผู้หญิงปกติที่เขามีกัน อาจจะมีขึ้นตามหน้า ตามตัว ตามหน้าอก หรือหน้าท้อง ซึ่งแบบนี้เขาเรียกว่า ภาวะขนดก ซึ่งใครที่มีภาวะขนดกนั้นสามารถบ่งบอกได้เลยว่าคุณมีฮอร์โมนเพศชายมากกว่าฮอร์โมนเพศหญิงเพราะมีแอนโดรเจนมากกว่าปกตินั้นเอง
จึงทำให้ผู้หญิงบางคนนั้นรู้สึกกังวล ขาดความมั่นใจในตัวเองหรืออายที่เรามีขนเยอะจนเกินไป
มีวิธีแก้ไขที่ทำให้ฮอร์โมนเพศชายลดลงไหม?
สาวๆอย่าเพิ่งกังวลกันไปก่อน เพราะทุกปัญหาย่อมมีทางแก้อยู่เสมอ อย่างแรกที่จะบอกคือฮอร์โมนเพศชายนั้นจะลดลงหลังจากที่คุณผู้หญิงคลอดลูกไป
เทสโทสเตอโรนซึ่งเป็นฮอร์โมนแอนโดรเจนนั้นจะกลับสู่ปกตินั้นเอง และสำหรับผู้หญิงที่อยู่ในช่วงวัยทอง รังไข่จะมีการหลั่งเทสโทสเตอโรนน้อยลง
กว่าเดิม แต่อย่างไรก็ตามในปัจจุบันนี้มียาคุมกำเนิดหลายยี่ห้อที่มีการเคลมว่าช่วยเพิ่มฮอร์โมนเพศหญิงให้มากขึ้น ซึ่งยาคุมนี่แหละค่ะ จะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก
ให้กับสาวๆที่มีภาวะขนดกได้
วันนี้เราเลยจะมาแนะนำยาคุม 2 แบรนด์ที่ช่วยเพิ่มฮอรโมนเพศหญิงกัน ทั้งหญิงและสาวประเภทสองต้องชอบกัน
-B-lady
เป็นยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม ที่มีฤทธิ์ช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้และยังช่วยในการเสริมฮอร์โมนเพศหญิง ลดภาวะขนดก ทำให้รูปร่างนั้นดูมีน้ำมีนวล
มีทรวดทรงองค์เอว มีผิวพรรณเปล่งปลั่งอีกด้วย ยาคุม B-lady นั้นไม่ได้ทำมาเพื่อสุภาพสตรีอย่างเดียวนะคะ เพราะในปัจจุบันสาวประเภท 2 ชอบใช้กัน
เพื่อต้องการเสริมความเป็นผู้หญิงในตัวนั้นเอง (สาวประเภทสองเขาชอบตัวนนี้กันเพราะเห็นผล ต้องไปลองกันนะคะ)
-ไดแอน35
ตัวนี้จะเป็นยาคุมกำเนิดที่ช่วยในเรื่องลดฮอร์โมนเพศชาย ตัวไดเอนจะค่อยปรับฮอร์โมน สำหรับสาวประเภท 2 เขาจะชอบตัวยาคุมตัวนี้กันเพราะยาคุมไดแอน 35
นั้นจะช่วยให้อึ๋ม ดูเปล่งปลั่ง แต่ไม่เหมาะกับสาวๆที่กลัวอ้วนเพราะยาคุมไดแอน35กินแล้วอาจจะมีผลข้างเคียง เช่น ทำให้ดูอิ่มอวบ
***อย่างไรก็ตามหากใครที่คิดจะกินยาคุมกำเนิดควรที่จะปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเสมอนะคะ
รูปภาพโดย Google
สวัสดีจ้าสาว ๆ ตอนนี้มีใครที่กำลังกินยาคุมอยู่บ้างคะ หรือใครกำลังที่จะมองหายาคุมที่กินแล้วไม่อ้วนบ้างคะหรือใครที่กำลัง
มองหายาคุมที่กินแล้วสวยขึ้นบ้างคะ อะยกมือขึ้น ล้อเล่น ๆ ค่ะ หากใครที่ต้องการมองหายาคุมที่กินแล้วไม่อ้วน กินแล้วผอมลง
กินแล้วสิวลด กินแล้วสวยขึ้นจนพี่วินต้องร้องทัก น้องสาวสวยจังกินอะไรเข้าไปจ๊ะ คุณเข้ามาถูกที่แล้วค่ะ เนื่องจากวันนี้
วันดีเราจะมาแนะนำยำคุมที่กินแล้วไม่อ้วน แถมยังสวยขึ้นอีกจ้า วันนี้เราขอแนะนำ 4 อันดับ ยาคุมกินแล้วไม่อ้วน
อันดับที่ 1 Justima ยาคุมจัสติมา มาในรูปแบบกล่องสีส้มจี๊ดจ๊าด ดึงดูดสายตา สรรพคุณระดับนางงามจักรวาล แต่ราคาระดับ
นางนพมาศประจำตำบล เป็นไงละคะ มองเห็นถึงความดีงามของน้องจัสติมาหรือยังคะ ถ้ายัง มาต่อกันเลยค่ะ จัสติมาในหนึ่งกล่อง
ประกอบด้วย 21 เม็ด มีสรรพคุณป้องกันการตั้งครรภ์ ขับน้ำ ลดอาการบวมน้ำ กินแล้วตัวไม่อ้วน ตัวไม่บวม ลดสิว ผิวใส ลดอาการ
ผิดปกติของร่างกาย ก่อนประจำเดือนจะมา และรักษาโรคซีสต์ หรือถุงน้ำในรังไข่ สนนราคาต่อกล่อง 21 เม็ด ราคา 270 บาท
ตกราคาเม็ดละ 12.86 บาท ราคาบางเบาดุจขนเป็ด
อันดับที่ 2 Yasmin ยาคุมยาสมินคนดีคนเดิม น้องคนนี้มาในกล่องสีเหลืองส้ม มาพร้อมกับตัววายใหญ่โต สรรพคุณเหมือน
จัสติมาตัวบนเปี๊ยบ คือ ป้องกันการตั้งครรภ์ ลดตัวบวม ลดอาการบวมน้ำ กินแล้วไม่อ้วน ลดสิว ผิวใส ลดอาการผิดปกติของร่างกาย
ก่อนประจำเดือนจะมา และรักษาโรคซีสต์ หรือถุงน้ำในรังไข่ สนนราคา 350 บาท ในหนึ่งกล่องมี 21 เม็ด ตกราคาเม็ดละ 16.67 บาท
อันดับที่ 3 Yaz ยาคุมยาซ น้องสาวของยาสมินคนดีคนเดิม มาในรูปแบบกล่องสีฟ้าเหลืองสะดุดตา ตัวนี้แตกต่างกับยาสมิน
ผู้พี่ที่เป็นยาคุมชนิดฮอร์โมนต่ำ ซึ่งเป็นตัวเลือกสำหรับผู้ที่แพ้ยาคุมประเภทฮอร์โมนรวมอย่างน้องจัสติมาหรือยาสมิน ซึ่งหากกิน
ยาคุมตัวนี้จะหมดปัญหาในการกังวลเรื่องแพ้ยาคุม หมดปัญหาอาการวิงเวียนศีรษะ คล้ายจะเป็นลม หรืออาเจียน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น
ก็ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลด้วยนะคะ สรรพคุณของน้องคนนี้ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้เป็นพี่แม้แต่นิดเดียว เช่น ป้องกันการตั้งครรภ์ลดอาการ
บวมน้ำของร่างกาย ลดสิวบนร่างกาย กินแล้วไม่อ้วน แถมน้ำหนักอาจลดลงอีก ลดอาการผิดปกติของร่างกายก่อนประจำเดือนมา
และรักษาโรคซีสต์ หรือถุงน้ำในรังไข่ สรรพคุณเลิศขนาดนี้สนนราคาต่อกล่องตกอยู่ที่ 440 บาท ต่อกล่อง มี 28 เม็ด เป็นสูตร 24+4
ราคาต่อ 1 เม็ด คือ 15.71 บาท ราคาเหมือนจะแพง แต่ก็ไม่แพงนะคะถ้าเทียบกับสรรพคุณ และความคุ้มค่าแล้ว
อันดับที่ 4 Melodia น้องเมโลเดีย หลายคนอาจค้นหน้าคุ้นตากัน มาในกล่องสีขาวเหลือง แผงสีส้ม ของแท้ต้องแผงสีส้ม
สรรพคุณคือ ป้องกันการตั้งครรภ์ กินแล้วไม่ทำให้ตัวอ้วนบวม ลดอาการบวมน้ำ ขับน้ำ ลดสิว ลดอาการผิดปกติของร่างกาย
ก่อนประจำเดือนมา และรักษาโรคซีสต์ หรือถุงน้ำในรังไข่ คุณสมบัติไม่มีใครยอมใครจริง ๆ สนนราคาต่อกล่อง 285 บาท
ในหนึ่งกล่องมี 21 เม็ดเช่นกัน ตกราคาต่อเม็ดที่ 13.57 บาท ราคถือว่ารับได้ แพงกว่าน้องจัสติมานิดนึงค่ะ
อย่างไรก็ดี หากรู้อย่างนี้แล้ว สาว ๆ ลองเลือกซื้อตามความต้องการได้เลยนะคะ ยาคุมทุกยี่ห้อที่บอกไปสามารถหา
ซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปได้เลยจ้า สุดท้ายอย่าลืมแชร์แบ่งปันข้อมูลไปให้เพื่อน ๆ ได้รู้กันด้วยนะคะ
***หากท่านใดต้องการทานยาคุมควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
การใช้ยาคุมแล้วเกิดผลข้างเคียงในเรื่องอารมณ์แปรปรวน
เราจะรู้โดยทั่วกันว่าการทานยาคุมกำเนิดบางตัวจะทำให้มีผลเสียในด้านของอารมณ์แปรปรวน เนื่องจากยาคุมนั้น
บางตัวมีตัวยาที่ทำให้มีการออกฤทธิ์ให้การยับยั้งการทำงานของสารสื่อประสาทบางตัว จึงทำให้เกิดภาวะความเครียด
และมีอารมณ์ที่หงุดหงิดได้ง่าย แต่ก็ไม่ใช่จะเกิดกับผู้หญิงทุกคน
กลุ่มคนที่มีความเสี่ยงในเรื่องสภาวะอารมณ์แปรปรวนได้ง่าย
คือกลุ่มคนที่มีร่างกายที่ตอบสนองฮอร์โมน จึงทำให้เกิดสภาวะอารมณ์การแปรปรวนได้ง่ายมากกว่าคนปกติ
แต่สาวๆทุกคนไม่ต้องกังวลกันไปก่อนเนื่องจากปัจจุบันก็จะมียาคุมกำเนิดหลายแบรนด์ได้มีการพัฒนายาคุมกำเนิด
แบบใหม่ๆ ออกมา เพื่อลดอาการภาวะซึมเศร้าโดยมีการลดปริมาณของฮอร์โมนนั้นให้ต่ำลง วันนี้ก็มาแนะนำ
ยาคุมที่มีปริมาฮอร์โมนต่ำ เพื่อยับยั้งไม่ให้เกิดสภาวะอารมณ์แปรปรวนได้ง่าย
ยาคุมที่ช่วยลดอาการPMS
เป็นยาคุมที่ช่วยในการรักษาสิวพวกนี้ แต่ Yaz มีจุดเด่นในเรื่องลดอาการ PMS หรือที่เขาเรียกกันว่าอาการหงุดหงิดนั้นเอง
ซึ่งยาคุมตัวนี้จะเป็นยาคุมที่มีปริมาฮอร์โมนน้อย (ตัวกระตุ้นให้เกิดภาวะอารมณ์แปรปรวน)จึงทำให้เกิดผลข้างเคียงน้อยเช่นกัน
เป็นยาคุมที่ช่วยในการรักษาสิวเช่นกัน สำหรับสาวๆคนไหนที่กินยาคุมแล้วกลัวอ้วนตัว Melodia ก็ช่วยได้ซึ่ง Melodia
ก็เป็นยาคุมกำเนิดที่มีปริมาณฮอร์โมนน้อยเหมือนกัน จึงช่วยลดอาการหงุดหงินก่อนมีประจำเดือนได้ ดังนั้นสาวๆคนไหน
ที่ชอบเหวี่ยงหรือหงุดหงิดง่ายตัวนี้ก็เป็นอีกตัวหนึ่งที่อยากจะแนะนำ
เป็นยาคุมที่กินแล้วไม่อ้วน ยาคุมตัวนี้สาวๆหลายๆคนน่าจะรู้จักกันดี เพราะ Justima เป็นยาคุมอีกตัวหนึ่งที่มีสารพัด
ประโยชน์และเป็นตัวที่มีผลข้างเคียงน้อยมาก นอกจากนี้ Justima ยังช่วยลดอาการต่างๆ เช่นเรื่องอาการที่หงุดหงิดง่าย
ก่อนที่ประจำเดือนจะมาอีกด้วย น่าจะเป็นอีกตัวที่สาวๆคงน่าจะชอบกันเพราะตัวนี้ตอบโจทย์และครอบคลุมทุกปัญหา
ที่สาวๆกังวลเลยจริงๆ (แถมราคาก็สบายกระเป๋าๆสุดๆไปเลย555)
***หากท่านต้องการทานยาคุมควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ถ้าพูดถึงยาคุมกำเนิดทุกคนจะคิดว่ามันเอาไว้เพียงแค่การคุมกำเนิดอย่างเดียวซึ่งเป็นความคิดที่ผิด
จริงๆแล้วยาคุมนั้นยังมีประโยชน์มากมายที่สาวๆยังคิดไม่ถึง ยาคุมมีหลากหลายประโยชน์และยังช่วยได้ในหลายเรื่อง
สามารถทำให้ผู้หญิงแบบเรานั้นสวยได้มากขึ้น มาดูประโยชน์คุมกำเนิดที่นอกเหนือจากการคุมกำเนิดกัน เช่น ลดสิว
หน้าใส ปรับฮอร์โมนเพศชาย หน้าอกอวบอิ่ม ลดการบวมน้ำในร่างกาย ผิวใส่ออร่า ดูสุขภาพดีแบบลูกคุณหนู
วันนี้ก็จะมาแนะนำยาคุมที่ประโยชน์ดังกล่าวมาฝากให้สาวๆกัน
ยาคุมแบบไหนที่เหมาะกับตัวเรา?
อย่างแรกเลยเราต้องดูจุดประสงค์ของเราว่าต้องการทานยาคุมเพื่อช่วยในเรื่องไหน เช่น เรื่องลดปัญหาสิว
เรื่องลดอาการบวมน้ำ เรื่องปรับฮอร์โมน หรือช่วยในการคุมกำเนิด เป็นต้น
วันนี้จะมาแนะนำยาคุมที่ช่วยแก้ปัญหาเรื่องสิวฮอร์โมน ช่วยปรับฮอร์โมนในร่างกายให้สมดุล และช่วยเรื่องผิวพรรณให้ดูสวยใสไร้สิว
ยาคุมกำเนิด ที่ช่วย ในเรื่องสิว ผิวขาวใส ลดอาการบวมน้ำและปรับฮอร์โมนในร่างกายให้สมดุล
1.Govana
ยาคุมกำเนิด Govana นั้นพิเศษกว่ายาคุมทั่วๆไป เนื่องจากเป็นยาเม็ดคุมกำเนิดที่ช่วยปรับสมดุลในร่างกาย
และยังลดผลข้างเคียง เช่น ปรับฮอร์โมนเพศชายได้อย่างดีและแก้ปัญหาขนดกได้อย่างดี ยังสามารถช่วยในการลด
เรื่องสิวได้ดีด้วย นอกเหนือจากนี้ Govana นั้นยังไม่ทำให้เกิดอาการบวมน้ำเพราะ Govana มีตัวยาใน
กลุ่มโปรเจสเตอโรนที่มีฤทธิ์ช่วยลดการคั่งของน้ำในร่างกาย
2.Diane-35
ที่เราเลือก Diane-35 เพราะว่าเจ้ายาคุมตัวนี้ช่วยทำให้ผิวพรรณดีขึ้น แล้วก็รักษาสิวได้อย่างดีเยี่ยม ตัวยาใน Diane-35
มีตัวยาไซโพรทีโรนอะซิเตท จะช่วยยับยั้งการทำงานของฮอร์โมนเพศชาย คือ ฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen)
ซึ่งฮอร์โมนเพศชายนี้จะเป็นตัวไปต่อมไขมันให้ผิวไขมันมากขึ้นซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิว
3. Justima
Justima เป็นยาคุมอีกตัวหนึ่งที่กินแล้วไม่อ้วนและมีผลข้างเคียงค่อนข้างน้อย เนื่องจากเจ้ายาคุมตัวนี้
มีตัวยา Drospirenone จะออกฤทธิ์ช่วยลดการคั่งน้ำในร่างกาย จึงช่วยป้องกันภาวะการบวมน้ำและไม่ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น
อีกทั้งยังช่วยให้หน้าใสไร้สิว
***หากท่านใดต้องการที่จะกินยาคุมควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ความแตกต่างของยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดแบบแผง 21 เม็ด กับ 28 เม็ด
มีผู้หญิงจำนวนไม่น้อยที่ได้ทราบเรื่องราวเกี่ยวกับยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดมาบ้างแล้ว แต่ก็มีผู้หญิงจำนวนอีกไม่น้อยเช่นกัน ที่ยังไม่ทราบว่ายาคุมกำเนิดชนิดเม็ด 21 วัน กับ ยาคุมกำเนิดชนิดเม็ด 28 วัน มีความแตกต่างกันอย่างไร ซึ่งวันนี้เราจะมาอธิบายถึงข้อสงสัยเหล่านั้นให้เพื่อน ๆ ได้ทราบกัน
ยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดที่มีฮอร์โมนรวม มักจะมีฮอร์โมนฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน และฮอร์โมนเอสโตรเจน ผสมอยู่ในสัดส่วนที่แตกต่างกัน
ตัวอย่าง ยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดที่มีฮอร์โมนรวม เช่น Justima (จัสติมา), Yasmin (ยาสมิน), Yaz (ยาซ), B-Lady (บี-เลดี้ ) และ Govana (โกวานา)
ส่วนยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดที่มีฮอร์โมนเดี่ยวนั้น มักจะมีตัวยา Lynestrenol อยู่ ซึ่งตัวยา Lynestrenol จะเป็นโปรเจสตินรุ่นแรก (First generation progestin) ให้ประโยชน์ในด้านของการคุมกำเนิด และในด้านของฮอร์โมนเพศชาย ผู้ที่รับประทานยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดที่มีฮอร์โมนเดี่ยวนี้จะได้รับการแสดงออกทางร่างกายด้านเพศชายมากขึ้น อย่างเช่น มีขนเยอะขึ้น มีผิวมัน เกิดสิวเพิ่มมากขึ้น
ตัวอย่าง ยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดที่มีฮอร์โมนเดี่ยว เช่น Dailyton (เดลิตอน), Exluton (เอ็กซ์ลูตอน) และ Cerazette (ซีราเซท)
ยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดที่มีฮอร์โมนรวม มักจะมีจำนวนเม็ดในแผงยาแตกต่างกัน ซึ่งสามารถพบได้มากทั่วไป คือ แผงละ 21 เม็ด และ 28 เม็ด ซึ่งมีความแตกต่างกันดังนี้
ยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดที่มีฮอร์โมนรวม แผงละ 21 เม็ด ทุกเม็ดจะมีตัวยาทั้งหมด จะไม่มีเม็ดแป้งประกอบอยู่ด้วย ซึ่งต้องรับประทานยาในเวลาเดียวกันทุกวัน วันละ 1 เม็ด จนหมดแผง แล้วจึงหยุด 7 วันก่อนเริ่มแผงใหม่ หลังหยุดยาประมาณ 1-3 วัน จะเริ่มมีประจำเดือน
ยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดที่มีฮอร์โมนรวม แผงละ 28 เม็ด จะมีตัวยาที่มีฮอร์โมนอยู่จำนวน 21 เม็ด และไม่มีตัวยาหรือไม่มีฮอร์โมนอยู่ในเม็ด เป็นเม็ดแป้ง อีก 7 เม็ด หรือเรียกว่าชนิดแผง 21/7 เม็ด และยังมีชนิดแผง 24/4 เม็ด คือมีตัวยาในเม็ด 24 เม็ด และมีเม็ดแป้งอีก 4 เม็ด จึงครบ 28 เม็ด ซึ่งเม็ดแป้งจะเป็นเม็ดที่มีสี และหรือขนาดเม็ดที่แตกต่างจากเม็ดอื่นที่มีตัวยาอย่างชัดเจน โดยจะรับประทานยาในเวลาเดียวกันทุกวัน วันละ 1 เม็ด จนหมดแผงแล้วขึ้นแผงใหม่ต่อเนื่องกันไปไม่ต้องหยุดกินยาอย่างแบบ 21 เม็ด โดยช่วงที่รับประทานเม็ดแป้งไปประมาณ 1-3 เม็ด จะเริ่มมีประจำเดือน ช่วยในการไม่ให้ลืมทานยาเมื่อขึ้นเดือนใหม่
*หากท่านใดต้องการทานยาคุมกำเนิดควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้เสมอ