สวัสดีจ้าสาว ๆ ทุกคน
คงจะรู้จักการคุมกำเนิดกันอยู่แล้วใช่ไหมคะ
และคงรู้ว่าการคุมกำเนิดนั้นมีหลายประเภท ทั้งการใช้ยาคุมกำเนิดชนิดแบบเม็ด
ทั้งคุมกำเนิดที่เป็นการฝังเข็ม หรือแม้กระทั่งการทำหมันทั้งในเพศชาย และเพศหญิง
แต่วันนี้สิ่งที่เราจะพูดถึงนั้น คือ การคุมกำเนิดแบบใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด สาว ๆ
รู้กันไหมคะว่า ยาเม็ดคุมกำเนิดนั้นสามารถแบ่งออกได้อีกเป็น 2ประเภทหลัก
นั่นคือ ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน และยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดรายเดือน
|
ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินชนิด 2 เม็ด |
|
ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินชนิด 1 เม็ด |
1. ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน
คือ
ยาเม็ดคุมกำเนิดที่ใช้หลังจากการมีเพศสัมพันธ์ ที่ไม่ได้มีการป้องกัน
หรืออาจป้องกันผิดวิธี หรือแม้กระทั่งมีการป้องกันแล้ว
แต่เกิดอุบัติเหตุความผิดพลาดในการป้องกัน อย่างเช่น ถุงยางอนามัยขาด
ลืมกินยาคุมแบบแผงชนิดรายเดือน หรือห่วงอนามัยเกิดหลุด
นั่นคือสาเหตุในการที่ต้องกินยาเม็ดคุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่พร้อม
ไม่พึงประสงค์ ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินใน 1
แผง จะมีทั้งหมด 2 เม็ด ซึ่งจะต้องกินเม็ดแรกอย่างเร็วที่สุด
และควรกินภายใน 72 ชั่วโมง หลังจากมีเพศสัมพันธ์
และเม็ดที่สองควรกินหลังจากเม็ดแรกภายใน 12 ชั่วโมง ถัดไปจากการกินเม็ดแรก
ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินนั้นหากกินอย่างถูกวิธี
และถูกเวลาจะสามารถมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ถึง 95
เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าหากมีการกินที่ล่าช้าเกิน 24
ชั่วโมง หลังจากการมีเพศสัมพันธ์
ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์จะลดเหลือเพียง 85
เปอร์เซ็นต์ และหากกินหลังจาก 48 ชั่วโมง
ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์จะลดเหลือเพียง 75
เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นจึงไม่ควรที่จะกินยาคุมล่าช้า ควรกินอย่างเร็วที่สุด
เพื่อประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ที่ดีที่สุด
|
ยาคุมกำเนิดรายเดือน ชนิด 21เม็ด และ 28 เม็ด |
2. ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดรายเดือน
นั้นจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ที่ดีกว่ายาเม็ดคุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน
เนื่องจาก หากกินอย่างถูกวิธีอย่างเคร่งครัดนั้น
จะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ถึง 95 เปอร์เซ็นต์ แล้วสาว ๆ
รู้ไหมว่ายาเม็ดคุมกำเนิดชนิดรายเดือนนั้นสามารถแบ่งได้ออกเป็น 3
ประเภท คือ ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนต่ำ
และยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว โดยทั้งสามแบบมีความแตกต่างกันดังนี้
ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม
ซึ่งเป็นยาเม็ดคุมกำเนิดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจากสาว ๆ
โดยในหนึ่งเม็ดจะประกอบไปด้วย 2 ฮอร์โมน ด้วยกันคือ ฮอร์โมนเอสโตรเจน
และฮอร์โมนโปรเจสโตเจน ซึ่งยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดนี้ จะมีประโยชน์มากมายแฝงอยู่ด้วย
ไม่ใช่มีประโยชน์แค่เฉพาะการป้องกันการตั้งครรภ์เพียงอย่างเดียว อย่างเช่น ลดสิว
ลดความมันบนใบหน้า ลดอาการบวมน้ำ ลดอาการ PMS รักษาอาการ
PCOS เป็นต้นจ้า ตัวอย่างยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม
อย่างเช่น Justima (จัสจิมา) และYasmin (ยาสมิน)
ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนต่ำ
เป็นยาเม็ดคุมกำเนิดที่มีปริมาณของฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง ซึ่งน้อยกว่าแบบฮอร์โมนรวม
เพราะยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดนี้ใช้เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่มีอาการแพ้ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม
ซึ่งจะมีอาการแพ้ยา มีอาการอาเจียน วิงเวียนศีรษะ หรือเป็นฝ้าที่ใบหน้า
ตัวอย่างยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนต่ำที่หาซื้อได้ง่าย เช่น Yaz (ยาซ)
ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว
ซึ่งเหมาะมากสำหรับผู้ที่เป็นคุณแม่ ให้นมลูก โดยตัวยาใน 1 เม็ดจะประกอบด้วยฮอร์โมนโปรเจสโตรเจนเพียงอย่างเดียว
ซึ่งส่งผลให้ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดของยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยวนั้น
มีน้อยกว่ายาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม
ตัวอย่างยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยวที่หาซื้อได้ง่าย เช่น Dailyton (เดลิต้อน)
และ Exluton (เอ็กซ์ลูตอน)
ถึงตอนนี้แล้วสาว ๆ
คงรู้กันแล้วใช่ไหมคะว่าประโยชน์ของยาเม็ดคุมกำเนิดมีอะไรบ้าง
และการป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่พึ่งประสงค์นั้นดีอย่างไร สาว ๆ
คนไหนที่ยังไม่พร้อมจะเป็นคุ
ณแม่ก็อย่าลืมป้องกันกันด้วยนะคะ
**หากใครต้องการทานยาคุมควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้เสมอ
บางคนอาจจะยังไม่รู้ตัวว่าจริงๆแล้วตัวเองหายใจไม่ถูกต้อง หลายคนอาจจะมีคำถามว่า
ฉันหายใจไม่ถูกต้องตรงไหน เนี่ยฉันก็หายใจเข้าหายใจออกมันก็ถูกต้องแล้วไหมอะ ทุกคนกำลังเข้าใจผิดจ้าจริงๆแล้วการหายใจที่ถูกต้องไม่ได้มีแค่เพียงหายใจเข้า-ออกอย่างเดียวนะคะ ทุกๆคนลองสังเกตตัวเองดูดีๆนะคะ เวลาเราหายออกท้องเราจะพองขึ้น ส่วนเวลาหายใจเข้าท้องเราจะแฟบลง ใช่ไหมล่ะคะ แต่จริงๆแล้ววิธีการหายใจที่ถูกต้องนั้น เวลาที่เราหายใจเข้าท้องเราจะต้องพองขึ้น ส่วนเวลาหายใจออกนั้นท้องเราก็จะแฟบลงไปนั้นเองนะคะ
หลักการง่ายสำหรับการหายใจ เพื่อให้สุขภาพดีได้
- ให้เราหายใจเข้า พร้อมนับ 1-4 (นับในใจก็พอนะจ๊ะ)
- ให้กลั้นหายใจ พร้อมนับ 1-7
- และให้หายใจออก พร้อมนับ 1-8 นะจ๊ะทูกกกกคลลลลลลล
กระบวนการทำงานของระบบหายใจ การหายใจเข้าจะเป็นการหายใจเพื่อรับออกซิเจนเข้าสู่ร่างกาย และการหายใจออกจะเป็นปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากปอดเป็นการนำของเสียหรือสารพิษที่อยู่ในปอดเราออกมา จากหลักการข้างต้นจะเห็นว่ามีการหายใจออกนานกว่าการหายใจเข้า เพื่อที่จะนำสารพิษหรืออากาศที่ไม่ดีในปอดออกให้หมดแล้วค่อยหายใจเข้าเติมอากาศดีเข้าสู่ปอดนั่นเองจ้า
วิธีการหายใจที่ถูกต้องอาจจะไม่ได้ช่วยรักษาโรคทางกายภาพได้โดยตรง แต่การหายใจที่ถูกต้องจะทำให้ช่วยลดความตึงเครียดลงได้ ลองสังเกตตัวเองดูนะคะเมื่อเรามีการจดจ่อกับลมหายใจมากขึ้น เราก็จะมีสมาธิมากขึ้น ละทิ้งสิ่งต่างๆที่ทำให้เกิดความเครียดได้มากขึ้น จิตใจเราก็จะสงบลง ไม่ทุกข์ร้อน ทุรนทุราย ทำให้การทำงานหรือแม้กระทั่งการใช้ชีวิตก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นเช่นกันและยังช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญในร่างการได้เป็นอย่างดี
ทุกๆคนลองนำวิธีนี้ไปใช้ดูนะคะ วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่าย แต่ก็จะแอบยากหน่อยในช่วงแรกๆ ฝึกไปทีละนิดทีละหน่อย โดยอาจจะฝึกช่วงตื่นนอนและช่วงก่อนนอน ครั้งละ 2-5 นาที แล้วค่อยเพิ่มเวลาไปเรื่อยๆนะคะ เมื่อสุขภาพจิตเราดีขึ้น สงบลง ก็จะส่งผลที่ดีต่อสุขภาพทางกายได้นะคะ
***อย่าลืมดูแลสุขภาพกันด้วยนะจ๊ะทุกคนนนนนนเราเป็นห่วง^^
เป็นผู้หญิงแล้วมีฮอร์โมนเพศชายได้จริงหรอ?
-มีได้ค่ะ ตอบตรงนี้ได้เลย แต่ก็ไม่ได้เกิดกับผู้หญิงทุกคนนะจ๊ะ สาวๆบางคนจะมีการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน ส่วนมากจะอยู่ในช่วงวัยรุ่นจนถึงวัยทองรวมไปถึง
ผู้ที่ตั้งครรภ์ด้วย เมื่อเราอายุมากขึ้นฮอร์โมนหลาย ๆ ตัวจะเริ่มเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งวัยรุ่นจะเป็นวัยที่เราเห็นการเปลี่ยนแปลงมากทั้งทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งเป็นผล
มาจากฮอร์โมนเพศที่เพิ่มมากขึ้น
ฮอร์โมนเพศชายที่มีอยู่ในเพศหญิงนั้นเป็นอย่างไร?
ที่จะเห็นได้ชัดๆ คือ การที่มีขนขึ้นตามตัวมากกว่าผู้หญิงปกติที่เขามีกัน อาจจะมีขึ้นตามหน้า ตามตัว ตามหน้าอก หรือหน้าท้อง ซึ่งแบบนี้เขาเรียกว่า ภาวะขนดก ซึ่งใครที่มีภาวะขนดกนั้นสามารถบ่งบอกได้เลยว่าคุณมีฮอร์โมนเพศชายมากกว่าฮอร์โมนเพศหญิงเพราะมีแอนโดรเจนมากกว่าปกตินั้นเอง
จึงทำให้ผู้หญิงบางคนนั้นรู้สึกกังวล ขาดความมั่นใจในตัวเองหรืออายที่เรามีขนเยอะจนเกินไป
มีวิธีแก้ไขที่ทำให้ฮอร์โมนเพศชายลดลงไหม?
สาวๆอย่าเพิ่งกังวลกันไปก่อน เพราะทุกปัญหาย่อมมีทางแก้อยู่เสมอ อย่างแรกที่จะบอกคือฮอร์โมนเพศชายนั้นจะลดลงหลังจากที่คุณผู้หญิงคลอดลูกไป
เทสโทสเตอโรนซึ่งเป็นฮอร์โมนแอนโดรเจนนั้นจะกลับสู่ปกตินั้นเอง และสำหรับผู้หญิงที่อยู่ในช่วงวัยทอง รังไข่จะมีการหลั่งเทสโทสเตอโรนน้อยลง
กว่าเดิม แต่อย่างไรก็ตามในปัจจุบันนี้มียาคุมกำเนิดหลายยี่ห้อที่มีการเคลมว่าช่วยเพิ่มฮอร์โมนเพศหญิงให้มากขึ้น ซึ่งยาคุมนี่แหละค่ะ จะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก
ให้กับสาวๆที่มีภาวะขนดกได้
วันนี้เราเลยจะมาแนะนำยาคุม 2 แบรนด์ที่ช่วยเพิ่มฮอรโมนเพศหญิงกัน ทั้งหญิงและสาวประเภทสองต้องชอบกัน
-B-lady
เป็นยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม ที่มีฤทธิ์ช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้และยังช่วยในการเสริมฮอร์โมนเพศหญิง ลดภาวะขนดก ทำให้รูปร่างนั้นดูมีน้ำมีนวล
มีทรวดทรงองค์เอว มีผิวพรรณเปล่งปลั่งอีกด้วย ยาคุม B-lady นั้นไม่ได้ทำมาเพื่อสุภาพสตรีอย่างเดียวนะคะ เพราะในปัจจุบันสาวประเภท 2 ชอบใช้กัน
เพื่อต้องการเสริมความเป็นผู้หญิงในตัวนั้นเอง (สาวประเภทสองเขาชอบตัวนนี้กันเพราะเห็นผล ต้องไปลองกันนะคะ)
-ไดแอน35
ตัวนี้จะเป็นยาคุมกำเนิดที่ช่วยในเรื่องลดฮอร์โมนเพศชาย ตัวไดเอนจะค่อยปรับฮอร์โมน สำหรับสาวประเภท 2 เขาจะชอบตัวยาคุมตัวนี้กันเพราะยาคุมไดแอน 35
นั้นจะช่วยให้อึ๋ม ดูเปล่งปลั่ง แต่ไม่เหมาะกับสาวๆที่กลัวอ้วนเพราะยาคุมไดแอน35กินแล้วอาจจะมีผลข้างเคียง เช่น ทำให้ดูอิ่มอวบ
***อย่างไรก็ตามหากใครที่คิดจะกินยาคุมกำเนิดควรที่จะปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเสมอนะคะ
รูปภาพโดย Google
สวัสดีจ้าสาว ๆ ตอนนี้มีใครที่กำลังกินยาคุมอยู่บ้างคะ หรือใครกำลังที่จะมองหายาคุมที่กินแล้วไม่อ้วนบ้างคะหรือใครที่กำลัง
มองหายาคุมที่กินแล้วสวยขึ้นบ้างคะ อะยกมือขึ้น ล้อเล่น ๆ ค่ะ หากใครที่ต้องการมองหายาคุมที่กินแล้วไม่อ้วน กินแล้วผอมลง
กินแล้วสิวลด กินแล้วสวยขึ้นจนพี่วินต้องร้องทัก น้องสาวสวยจังกินอะไรเข้าไปจ๊ะ คุณเข้ามาถูกที่แล้วค่ะ เนื่องจากวันนี้
วันดีเราจะมาแนะนำยำคุมที่กินแล้วไม่อ้วน แถมยังสวยขึ้นอีกจ้า วันนี้เราขอแนะนำ 4 อันดับ ยาคุมกินแล้วไม่อ้วน
อันดับที่ 1 Justima ยาคุมจัสติมา มาในรูปแบบกล่องสีส้มจี๊ดจ๊าด ดึงดูดสายตา สรรพคุณระดับนางงามจักรวาล แต่ราคาระดับ
นางนพมาศประจำตำบล เป็นไงละคะ มองเห็นถึงความดีงามของน้องจัสติมาหรือยังคะ ถ้ายัง มาต่อกันเลยค่ะ จัสติมาในหนึ่งกล่อง
ประกอบด้วย 21 เม็ด มีสรรพคุณป้องกันการตั้งครรภ์ ขับน้ำ ลดอาการบวมน้ำ กินแล้วตัวไม่อ้วน ตัวไม่บวม ลดสิว ผิวใส ลดอาการ
ผิดปกติของร่างกาย ก่อนประจำเดือนจะมา และรักษาโรคซีสต์ หรือถุงน้ำในรังไข่ สนนราคาต่อกล่อง 21 เม็ด ราคา 270 บาท
ตกราคาเม็ดละ 12.86 บาท ราคาบางเบาดุจขนเป็ด
อันดับที่ 2 Yasmin ยาคุมยาสมินคนดีคนเดิม น้องคนนี้มาในกล่องสีเหลืองส้ม มาพร้อมกับตัววายใหญ่โต สรรพคุณเหมือน
จัสติมาตัวบนเปี๊ยบ คือ ป้องกันการตั้งครรภ์ ลดตัวบวม ลดอาการบวมน้ำ กินแล้วไม่อ้วน ลดสิว ผิวใส ลดอาการผิดปกติของร่างกาย
ก่อนประจำเดือนจะมา และรักษาโรคซีสต์ หรือถุงน้ำในรังไข่ สนนราคา 350 บาท ในหนึ่งกล่องมี 21 เม็ด ตกราคาเม็ดละ 16.67 บาท
อันดับที่ 3 Yaz ยาคุมยาซ น้องสาวของยาสมินคนดีคนเดิม มาในรูปแบบกล่องสีฟ้าเหลืองสะดุดตา ตัวนี้แตกต่างกับยาสมิน
ผู้พี่ที่เป็นยาคุมชนิดฮอร์โมนต่ำ ซึ่งเป็นตัวเลือกสำหรับผู้ที่แพ้ยาคุมประเภทฮอร์โมนรวมอย่างน้องจัสติมาหรือยาสมิน ซึ่งหากกิน
ยาคุมตัวนี้จะหมดปัญหาในการกังวลเรื่องแพ้ยาคุม หมดปัญหาอาการวิงเวียนศีรษะ คล้ายจะเป็นลม หรืออาเจียน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น
ก็ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลด้วยนะคะ สรรพคุณของน้องคนนี้ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้เป็นพี่แม้แต่นิดเดียว เช่น ป้องกันการตั้งครรภ์ลดอาการ
บวมน้ำของร่างกาย ลดสิวบนร่างกาย กินแล้วไม่อ้วน แถมน้ำหนักอาจลดลงอีก ลดอาการผิดปกติของร่างกายก่อนประจำเดือนมา
และรักษาโรคซีสต์ หรือถุงน้ำในรังไข่ สรรพคุณเลิศขนาดนี้สนนราคาต่อกล่องตกอยู่ที่ 440 บาท ต่อกล่อง มี 28 เม็ด เป็นสูตร 24+4
ราคาต่อ 1 เม็ด คือ 15.71 บาท ราคาเหมือนจะแพง แต่ก็ไม่แพงนะคะถ้าเทียบกับสรรพคุณ และความคุ้มค่าแล้ว
อันดับที่ 4 Melodia น้องเมโลเดีย หลายคนอาจค้นหน้าคุ้นตากัน มาในกล่องสีขาวเหลือง แผงสีส้ม ของแท้ต้องแผงสีส้ม
สรรพคุณคือ ป้องกันการตั้งครรภ์ กินแล้วไม่ทำให้ตัวอ้วนบวม ลดอาการบวมน้ำ ขับน้ำ ลดสิว ลดอาการผิดปกติของร่างกาย
ก่อนประจำเดือนมา และรักษาโรคซีสต์ หรือถุงน้ำในรังไข่ คุณสมบัติไม่มีใครยอมใครจริง ๆ สนนราคาต่อกล่อง 285 บาท
ในหนึ่งกล่องมี 21 เม็ดเช่นกัน ตกราคาต่อเม็ดที่ 13.57 บาท ราคถือว่ารับได้ แพงกว่าน้องจัสติมานิดนึงค่ะ
อย่างไรก็ดี หากรู้อย่างนี้แล้ว สาว ๆ ลองเลือกซื้อตามความต้องการได้เลยนะคะ ยาคุมทุกยี่ห้อที่บอกไปสามารถหา
ซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปได้เลยจ้า สุดท้ายอย่าลืมแชร์แบ่งปันข้อมูลไปให้เพื่อน ๆ ได้รู้กันด้วยนะคะ
***หากท่านใดต้องการทานยาคุมควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ในปัจจุบัน นอกจากการรักษาทางการแพทย์ที่มีประสิทธิภาพแล้วนั้น
ยังมีวิธีการรักษาอีกอย่างหนึ่งที่มีประสิทธิภาพสูงและเป็นที่นิยมใช้ในการบำบัดรักษามาก
และทางการแพทย์เองยังได้นำวิธีการรักษาในรูปแบบนี้เข้ารักษาผู้ป่วยร่วมกับการรักษาสมัยใหม่ด้วย
นั่นก็คือ “วิธีการธรรมชาติบำบัด” ซึ่งการรักษาด้วยวิธีการธรรมชาติ จะมีหลากหลายวิธีมาก
ขึ้นอยู่กับเราหรือแพทย์จะเลือกใช้แบบไหนให้เหมาะสมแหละเห็นผลได้ดีที่สุดค่ะ และวันนี้เราจะยกตัวอย่างการรักษาด้วยธรรมชาติ นั่นก็คือ “สุคนธบำบัด”
สุคนธบำบัด คือศิลปะและวิทยาศาสตร์ของการใช้น้ำมันหอมละเหยเพื่อสร้างเสริมและปรับสมดุลร่างกาย
จิตใจ อารมณ์ จิตวิญญาณและความผาสุก มาจากศัพท์ภาษาอังกฤษ คือ Aroma
Therapy (อะโรมาเทอราพี) ซึ่งเป็นการผสมของศัพท์ 2 คำ คือ Aroma
ซึ่งหมายถึง
กลิ่นหอม และ Therapy ซึ่งมายถึง การบำบัด
คำว่ากลิ่นหอมในที่นี้หมายถึงกลิ่นของน้ำมันหอมระเหยที่ได้จากพืช
มีศัพท์ที่ใช้ตามข้อกำหนดของราชบัณฑิตสถาน คือ คันธบำบัด และมีคำที่นิยมใช้ เช่น
สุวคนธบำบัด
วิธีการรักษาด้วยกลิ่น มักจะพบมากในแถบยุโรป
ซึ่งการรักษาในรูปแบบนี้มีมาตั้งแต่อดีตกาลมาจนถึงยุคปัจจุบัน มักจะเป็นการใช้น้ำมันหอมระเหย
เพื่อส่งเสริมหรือรักษาความสมดุลทางเคมีและฟิสิกส์ของเหลวในร่างกายเพื่อบำบัดอาการของโรคและในปัจจุบันมีการใช้เพื่อเสริมสร้างความงามอีกด้วย
ยกตัวอย่างเช่น สกัดจากดอกลาเวนเดอร์ สกัดจากดอกกุหลาบ จากดอกมะลิ ดอกคามูมาย
สกัดจากยูคาลิปตัส โหระพา เป็นต้น
ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า การรักษาด้วยกลิ่นจะใช้น้ำมันหอมละเหยเป็นตัวไปกระตุ้นระบบประสาท
เนื่องจากน้ำมันหอมละเหยจะมีโมเลกุลขนาดเล็กที่สามารถกระตุ้นการรับกลิ่นขอจมูกและสมองได้
จึงทำให้ระบบภายในร่างกายทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดการสมดุลในร่างกาย สุดท้ายก็จะส่งผลให้ร่างกายเยียวยารักษาตัวเองไปและยังช่วยป้องกันไม่ให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บตามมาอีกด้วย
ประโยชน์ของการใช้
“สุคนธบำบัด”
ü
ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย
ü
บรรเทาความเครียด ความวิตกกังวล
และอาการซึมเศร้า
ü
ช่วยให้นอนหลับสบายมากขึ้น
ü
ช่วยย่อยอาหาร
ü
ลดความดันโลหิต
ü
ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน
ประโยชน์ของการใช้ “สุคนธบำบัด” นั้นมีมากมาย
แต่ในทางกลับกัน เมื่อมีผลดีแล้ว ก็ต้องมีผลเสียตามมาด้วย นั้นก็คือ “สุคนธบำบัด”
เป็นวิธีการบำบัดที่ต้องใช้น้ำมันหอมระเหยช่วยในการกระตุ้น
ซึ่งน้ำมันหอมระเหยจะต้องสกัดจากพืชเพียงเท่านั้น ทำให้สกัดได้น้อย ปัจจุบันจึงทำให้มีการสังเคราะห์ขึ้นมาซึ่งจะมีสารเคมีและเมื่อใช้ไม่ถูกวิธีทำให้ได้รับสารเคมีมากไปเป็นอันตรายกับร่างกายมนุษย์เราได้
รูปภาพโดย Google
การใช้ยาคุมแล้วเกิดผลข้างเคียงในเรื่องอารมณ์แปรปรวน
เราจะรู้โดยทั่วกันว่าการทานยาคุมกำเนิดบางตัวจะทำให้มีผลเสียในด้านของอารมณ์แปรปรวน เนื่องจากยาคุมนั้น
บางตัวมีตัวยาที่ทำให้มีการออกฤทธิ์ให้การยับยั้งการทำงานของสารสื่อประสาทบางตัว จึงทำให้เกิดภาวะความเครียด
และมีอารมณ์ที่หงุดหงิดได้ง่าย แต่ก็ไม่ใช่จะเกิดกับผู้หญิงทุกคน
กลุ่มคนที่มีความเสี่ยงในเรื่องสภาวะอารมณ์แปรปรวนได้ง่าย
คือกลุ่มคนที่มีร่างกายที่ตอบสนองฮอร์โมน จึงทำให้เกิดสภาวะอารมณ์การแปรปรวนได้ง่ายมากกว่าคนปกติ
แต่สาวๆทุกคนไม่ต้องกังวลกันไปก่อนเนื่องจากปัจจุบันก็จะมียาคุมกำเนิดหลายแบรนด์ได้มีการพัฒนายาคุมกำเนิด
แบบใหม่ๆ ออกมา เพื่อลดอาการภาวะซึมเศร้าโดยมีการลดปริมาณของฮอร์โมนนั้นให้ต่ำลง วันนี้ก็มาแนะนำ
ยาคุมที่มีปริมาฮอร์โมนต่ำ เพื่อยับยั้งไม่ให้เกิดสภาวะอารมณ์แปรปรวนได้ง่าย
ยาคุมที่ช่วยลดอาการPMS
เป็นยาคุมที่ช่วยในการรักษาสิวพวกนี้ แต่ Yaz มีจุดเด่นในเรื่องลดอาการ PMS หรือที่เขาเรียกกันว่าอาการหงุดหงิดนั้นเอง
ซึ่งยาคุมตัวนี้จะเป็นยาคุมที่มีปริมาฮอร์โมนน้อย (ตัวกระตุ้นให้เกิดภาวะอารมณ์แปรปรวน)จึงทำให้เกิดผลข้างเคียงน้อยเช่นกัน
เป็นยาคุมที่ช่วยในการรักษาสิวเช่นกัน สำหรับสาวๆคนไหนที่กินยาคุมแล้วกลัวอ้วนตัว Melodia ก็ช่วยได้ซึ่ง Melodia
ก็เป็นยาคุมกำเนิดที่มีปริมาณฮอร์โมนน้อยเหมือนกัน จึงช่วยลดอาการหงุดหงินก่อนมีประจำเดือนได้ ดังนั้นสาวๆคนไหน
ที่ชอบเหวี่ยงหรือหงุดหงิดง่ายตัวนี้ก็เป็นอีกตัวหนึ่งที่อยากจะแนะนำ
เป็นยาคุมที่กินแล้วไม่อ้วน ยาคุมตัวนี้สาวๆหลายๆคนน่าจะรู้จักกันดี เพราะ Justima เป็นยาคุมอีกตัวหนึ่งที่มีสารพัด
ประโยชน์และเป็นตัวที่มีผลข้างเคียงน้อยมาก นอกจากนี้ Justima ยังช่วยลดอาการต่างๆ เช่นเรื่องอาการที่หงุดหงิดง่าย
ก่อนที่ประจำเดือนจะมาอีกด้วย น่าจะเป็นอีกตัวที่สาวๆคงน่าจะชอบกันเพราะตัวนี้ตอบโจทย์และครอบคลุมทุกปัญหา
ที่สาวๆกังวลเลยจริงๆ (แถมราคาก็สบายกระเป๋าๆสุดๆไปเลย555)
***หากท่านต้องการทานยาคุมควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ในยุคยุคปัจจุบันนี้
การแต่งกายถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่เราจะต้องให้ความสนใจ
เพราะการแต่งการจะเป็นสิ่งหนึ่งที่จะทำให้เราเป็นที่น่าสนและเป็นที่น่าดึงดูดใจแก่สายตาของประชาชนทั่วไปจ้าาา
หากเราแต่ตัวดูดีก็จะทำให้มีคนมองเราด้วยสายตาที่ชื่นชม ชื่นชอบ
แต่ในทางกลับกันหากเราแต่งตัวโทรมๆออกจากบ้านไปก็จะทำให้มีคนมองเราเช่นเดียวกันค่ะ
แต่อาจจะต่างกันตรงที่ สายตาที่มองเรามันจะเป็นคนละเเบบกับการชื่นชอบค่ะ
วันนี้เราเลยอยากจะมาแนะนำสไตล์การแต่งตัวของผู้หญิงในยุคนี้กันนะคะ
.
สาวๆสายสปอร์ต
สไตล์การแต่งตัว
แนวสปอร์ตๆ เป็นสไตล์ที่ฮิตและนิยมแต่งกันมากในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือแม้กระทั่งผู้หญิงก็มักจะแต่งกัน
เพราะสายสปอร์ตจะเป็นสไตล์ที่เรียบ และใส่สบายมากค่ะ แต่ถ้าหากเป็นเมื่อก่อนการที่มีใครใส่ชุดกีฬาไปเที่ยวหรือไปเดินห้างก็มักจะถูกมองด้วยสายตาแปลกๆ
แต่ปัจจุบันกลับไม่ใช่แบบนั้นแล้ว เนื่องจากว่าแบรนด์ต่างๆที่ทำเสื้อผ้าสไตล์นี้ได้ได้ออกแบบให้ชุดมีความทันสมัย
เป็นแฟชั่น ใส่ไปไหนก็ไม่ถูกมองด้วยสาตายแปลกๆอีกแล้วจ้า
2.
สาวๆสายสตรีท
เป็นอีกสไตล์หนึ่งที่ได้รับความนิยมมากในยุคปัจจุบันนี้
สไตล์นี้มักจะเน้นไปที่ ความเท่ห์ ความเกร๋ๆ ไม่มีความหวานเลย สไตล์นี้จะเป็นการแมทชิงชุด
ให้ดูเข้ากันและแต่งละคนก็จะไม่เหมือนกันอยู่ที่ความชอบ ส่วนใหญ่ที่มักจะเห็นบ่อยๆก็จะเป็นการแต่งตัวคุมโทน
สีขาวแดงดำ และปัจจุบันสีสะท้อนแสงกำลังมาแรงเลยทีเดียว
3.
สาวๆสายสวีต
สไตล์นี้ก็ตามชื่อเลยเนาะ
ฮ่าๆๆ ก็จะออกแนวหวานๆ น้ำตาลเรียกพี่ไปเลยจ้า เป็นแนวที่แบบผู้หญิงจ๋าเลยจ๊ะ
สีที่พบบ่อยก็จะเป็นสีพาสเทล เพราะมันจะทำให้คนที่ใส่ดูน่ารัก ใสๆ ไปเลยจ้า จริงๆแล้วไสต์นี้จะเป็นสไตล์ที่มีมานานมากๆแล้วและก็ยังเป็นที่นิยมกันมากๆใหม่สาวๆ
4.
สาวๆสายวินเทจ
สไตล์นี้ต้องบอกว่าเป็นอีกสไตล์ที่มีมานมนานแล้วและเรายังได้เห็นกันอยู่บ่อยๆ
เพราะสไตล์นี่ก็ได้รับความนิยมไม่น้อยตั้งแต่อดีตกาลก่อนจนถึงยุคปัจจุบัน ไอเทมหลักๆก็จะเป็นเสื้อค่ะ
จริงๆแล้วเสื้อวินเทจมันจะมีหลากหลายแบบให้เราเลือกใช้แบบที่เหมาะกับเรานะคะ
ไม่ว่าจะเป็นเสื้อยืด ยุค 80’s 90’ตัวโคร่งๆ เสื้อเชิ้ต ที่เห็นบ่อยๆก็จะเป็น
เชิ้ตฮาวาย หรือจะเป็นเสื้อคลุมตัวใหญ่ๆ ยาวๆ แล้วแต่ความชอบของเรา
และใส่กับกางเกงยีนส์เลือกได้ตามที่ชอบไปเลยจ้า
5.
สาวๆสายชิว
สไตล์สุดท้ายนี้ก็จะเป็นไสต์สบายๆชิวๆ
ไม่ต้องคิดอะไรมาก ไอเทมส่วนใหญ่ก็จะมีแค่ เสื้อยืด(สีไหนก็ได้ตามที่เรามี
ตามที่เราสะดวกใจที่จะใส่และคิดว่ามันเหมาะสมกับเรา)
กางเกงยีนส์(ขาสั้นหรือขายาวก็และแต่เราสะดวกใจอีกกแหละทีนี้นอกจากนี้จะเลือกแบบขาดหรือไม่ขาดก็แล้วแต่เราที่เห็นว่าเหมาะสมกับเราที่สุดแหละจ้า)
เสื้อแขนยาวอีกสักตัว(จะมีหรือไม่มีก็ได้แล้วแต่สะดวก) และกระเป๋า เพียงแค่นี้เราก็สามารถเขาไปเที่ยวไปช็อปปิ้งได้แล้วจ้า